วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แปลธรรมบทเรื่องพระจักขุบาล ตอน ๑ (ข้อความเบื้องต้น)





๑. ยมกวรรค วรรณนา
๑. เรื่องพระจักขุปาลเถระ [๑]
[ข้อความเบื้องต้น]

จกฺขุปาลตฺเถรวตฺถุ

. “มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา.
มนสา เจ ปทุฏฺเฐน ภาสติ วา กโรติ วา.
ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ จกฺกํว วหโต ปทนฺติ.
อยํ ธมฺมเทสนา กตฺถ ภาสิตาติสาวตฺถิยํกํ อารพฺภาติจกฺขุปาลตฺเถรํ.


มีปุจฉาว่า พระธรรมเทศนานี้ว่า

ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่
 สำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจร้ายแล้ว พูดอยู่ก็ดี
 ทำอยู่ก็ดี ทุกข์ย่อมไปตามเขา เพราะเหตุนั้น ดุจ
 ล้ออันหมุนไปตามรอยเท้าโค ผู้นำแอกไปอยู่ฉะนั้น,
ดังนี้ พระศาสดาตรัสแล้ว ณ ที่ไหน ?
 วิสัชนาว่า พระองค์ตรัสแล้ว ณ กรุงสาวัตถี. 
 มีปุจฉา (เป็นลำดับไป )ว่า พระองค์ทรงปรารภใคร ?
 มีวิสัชนาว่า พระองค์ทรงปรารภพระจักขุปาลเถระ. 
[กุฎุมพีทำพิธีขอบุตร]

สาวตฺถิยํ กิร มหาสุวณฺโณ นาม กุฏุมฺพิโก อโหสิ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค อปุตฺตโกโส เอกทิวสํ นฺหานติตฺถํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา  อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค สมฺปนฺนปตฺตสาขํ เอกํ วนปฺปตึ ทิสฺวา อยํ มเหสกฺขาย เทวตาย ปริคฺคหิโต ภวิสฺสตีติ ตสฺส เหฏฺฐาภาคํ โสธาเปตฺวา ปาการปริกฺเขปํ การาเปตฺวา วาลุกํ โอกิราเปตฺวา ธชปฏากํ อุสฺสาเปตฺวา วนปฺปตึ อลงฺกริตฺวา อญฺชลึ กริตฺวา สเจ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา ลเภยฺยํ ตุมฺหากํ มหาสกฺการํ กริสฺสามีติ ปตฺถนํ กตฺวา ปกฺกามิ.


 ดังได้สดับมา ในกรุงสาวัตถี มีกุฎุมพีผู้หนึ่งชื่อมหาสุวรรณเป็นคนมั่งมี มีทรัพย์มาก มีสมบัติมาก (แต่) ไม่มีบุตร. วันหนึ่งเขาไปสู่ท่าอาบน้ำ อาบเสร็จแล้วกลับมา เห็นต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพรต้นหนึ่งมีกิ่งสมบูรณ์ ในระหว่างทาง คิดว่า ต้นไม้นี้ จักมีเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่สิงอยู่ ดังนี้แล้ว จึงให้ชำระส่วนภายใต้แห่งต้นไม้นั้นให้สะอาดแล้ว ให้วงรั้ว เกลี่ยทราย ยกธงชัยและธงปฏากขึ้น แต่ง ต้นไม้เจ้าไพรแล้ว ทำปรารถนา (คือบน)ว่า ข้าพเจ้าได้บุตรหรือธิดาแล้ว จักทำสักการะใหญ่ถวายท่าน ดังนี้แล้ว หลีกไป

 [กุฎุมพีได้บุตรสองคน]

อถสฺส น จิรสฺเสว ภริยาย กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺฐาสิสา คพฺภสฺส ปติฏฺฐิตภาวํ ญตฺวา ตสฺส อาโรเจสิโส ตสฺสา คพฺภสฺส ปริหารมทาสิสา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิตํ นามคฺคหณทิวเส เสฏฺฐิ อตฺตนา ปาลิตํ วนปฺปตึ นิสฺสาย ลทฺธตฺตา ตสฺส ปาโลติ นามํ อกาสิสา อปรภาเค อญฺญมฺปิ ปุตฺตํ ลภิตสฺส จูฬปาโลติ นามํ กตฺวา อิตรสฺส มหาปาโลติ นามํ อกาสิเต วยปฺปตฺเต ฆรพนฺธเนน พนฺธึสุอปรภาเค มาตาปิตโร กาลมกํสุสพฺพมฺปิ วิภวํ อิตเรเยว วิจารึสุ.


 ในกาลเป็นลำดับมา ภรรยาของท่านเศรษฐีก็ตั้งครรภ์. ท่านก็ให้พิธีครรภบริหาร แก่นาง. ครั้นล่วง ๑๐ เดือน นางคลอดบุตรคนหนึ่งท่านเศรษฐีขนานนามแห่งบุตรนั้นว่า ปาละ เพราะเหตุทารกนั้นตนอาศัยไม้ใหญ่ที่เป็นเจ้าไพรอันตนอภิบาลจึงได้แล้ว. ในกาลเป็นส่วนอื่น ท่านเศรษฐีได้บุตรอีกคนหนึ่ง ขนานนามว่า จุลปาละ ขนานนามบุตรคนแรกว่า มหาปาละ. ครั้น ๒กุมารนั้นเจริญวัย มารดาบิดาก็คิดผูกพันด้วยเครื่องผูกพันคือการครองเคหสถาน. ในกาลเป็นส่วนอื่น มารดาบิดาได้ทำกาลกิริยาล่วงไป. วงศ์ญาติก็เปิดสมบัติทั้งหมดมอบให้แก่ ๒ เศรษฐีบุตร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น