วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แปลธรรมบทเรื่องพระจักขุบาล ตอน ๘ (พระเถระเสียจักษุพร้อมด้วยบรรลุพระอรหัต)


[พระเถระเสียจักษุพร้อมด้วยบรรลุด้วยพระอรหัต]

โส เวชฺเชน ปจฺจกฺขาโต วิหารํ คนฺตฺวา ตฺวํ เวชฺเชนาปิ ปจฺจกฺขาโตสิ อิริยาปถํ มา วิสฺสชฺชิ สมณาติ.
ปฏิกฺขิตฺโต ติกิจฺฉาย เวชฺเชนาปิ วิวชฺชิโต.
นิยโต มจฺจุราชสฺส กึ ปาลิต ปมชฺชสีติ
อิมาย คาถาย อตฺตานํ โอวทิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิอถสฺส มชฺฌิมยาเม อติกฺกนฺเต อปุพฺพํ อจริมํ อกฺขีนิ เจว กิเลสา จ ภิชฺชึสุโส สุกฺขวิปสฺสโก อรหา หุตฺวา คพฺภํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ.
 พระเถระถูกหมอบอกเลิกแล้ว กลับไปสู่วิหาร ดำริว่า ท่านแม้หมอเขาก็บอกเลิกแล้ว ท่านอย่าได้ละอิริยาบถเสียนะ สมณะแล้วกล่าวสอนตนด้วยคาถานี้ว่า  
ปาลิตะ ท่านถูกหมอเขาบอกเลิกจากการรักษา ทิ้งเสียแล้ว 
เที่ยงต่อมัจจุราช ไฉนจึงยังประมาท อยู่เล่า ?  
ดังนี้แล้ว บำเพ็ญสมณธรรม. ลำดับนั้น พอมัชฌิมยามล่วงแล้ว, ทั้งดวงตา ทั้งกิเลส ของท่านแตก (พร้อมกัน) ไม่ก่อนไม่หลังกว่ากัน. ท่านเป็นพระอรหันต์สุกขวิปัสสกเข้าไปสู่ห้องนั่งแล้ว. 

[พวกภิกษุและชาวบ้านรับบำรุงพระเถระ]

  ภิกฺขู ภิกฺขาจารเวลาย อาคนฺตฺวา ภิกฺขาจารกาโล ภนฺเตติ อาหํสุ. “กาโล อาวุโสติ? “อาม ภนฺเตติ. “เตน หิ คจฺฉถาติ. “กึ ตุมฺเห ปน ภนฺเตติ? “อกฺขีนิ เม อาวุโส ปริหีนานีติเต ตสฺส อกฺขีนิ โอโลเกตฺวา อสฺสุปุณฺณเนตฺตา หุตฺวา ภนฺเต มา จินฺตยิตฺถ มยํ โว ปฏิชคฺคิสฺสามาติ เถรํ สมสฺสาเสตฺวา กตฺตพฺพยุตฺตกํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุมนุสฺสา เถรํ อทิสฺวา ภนฺเต อมฺหากํ อยฺโย กุหินฺติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ยาคุํ เปเสตฺวา สยํ ปิณฺฑปาตมาทาย คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ปาทมูเล ปริวตฺตมานา โรทิตฺวา ภนฺเต มยํ โว ปฏิชคฺคิสฺสาม ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถาติ สมสฺสาเสตฺวา ปกฺกมึสุ.

 ในเวลาภิกขาจาร ภิกษุทั้งหลายไปเรียนว่า ท่านผู้เจริญเวลานี้ เป็นเวลาภิกขาจาร. 
ถ. กาลหรือ ? ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย. 
ภ. ขอรับ. 
ถ. ถ้าอย่างนั้น ท่านทั้งหลายไปเถิด. 
ภ. ก็ท่านเล่า ? ขอรับ. 
ถ. ตาของข้าพเจ้าเสื่อมเสียแล้ว ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย. เธอทั้งหลายแลดูตาของท่านแล้ว มีตาเต็มด้วยน้ำตา ปลอบพระเถระว่า ท่านผู้เจริญ ท่านอย่าคิดไปเลย, กระผมทั้งหลายจักปฏิบัติท่าน ดังนี้แล้ว ทำวัตรปฏิบัติที่ควรจะทำเสร็จแล้วเข้าไปสู่บ้าน. หมู่มนุษย์ไม่เห็นพระเถระ ถามว่า ท่านเจ้าข้า พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย ไปข้างไหนเสีย ทราบข่าวนั้นแล้ว ส่งข้าวต้มไปถวายก่อนแล้ว ถือเอาบิณฑบาตไปเอง ไหว้พระเถระแล้ว ร้องไห้กลิ้งเกลือกอยู่แทบเท้า (ของท่าน) ปลอบว่า ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าทั้งหลายจักรับปฏิบัติ ท่านอย่าได้คิดไปเลยแล้วลากลับ. 

 ตโต ปฏฺฐาย นิพทฺธํ ยาคุภตฺตํ วิหารเมว เปเสนฺติเถโรปิ อิตเร สฏฺฐิ ภิกฺขู นิรนฺตรํ โอวทติเต ตสฺโสวาเท ฐตฺวา อุปกฏฺฐาย ปวารณาย สพฺเพว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.  

ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ส่งข้างต้มและข้าวสวยไปถวายที่วิหารเป็นนิตย์. ฝ่ายพระเถระ ก็กล่าวสอนภิกษุ ๖๐ รูปนอกนี้เป็นนิรันดร์. เธอทั้งหลายตั้งอยู่ในโอวาทของท่าน, ครั้นจวนวันปวารณา ก็บรรลุ พระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทุกรูป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น